Thursday, August 1, 2013

สื่อนอกทึ่ง!คนไทย'รักในหลวง' พสกนิกรหลายหมื่นรอรับเสด็จฯ บางคนน้ำตาซึมเห็นพระพักต์แจ่มใส





ที่มา 
manager.co.th

เอเอฟพี - สื่อต่างประเทศพร้อมใจนำเสนอข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จฯออกจากโรงพยาบาลศิริราช เพื่อไปทรงประทับแปรพระราชฐานยังวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์วันพฤหัสบดี(1ส.ค.) ระบุพสกนิกรหลายหมื่นมารอเฝ้าฯรับเสด็จฯกษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย เผยบางรายกลั้นน้ำตาไม่อยู่เมื่อได้เห็นพระพักต์แจ่มใสของพระองค์



เอเอฟพีระบุการเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับ ณ พระราชวังไกลกังวลหนนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 4 ปีนับตั้งแต่พระองค์ทรงเข้าประทับรักษาพระวรกายที่โรงพยาบาลศิริราช อันสร้างความปลื้มปีติให้แก่พสกนิกรชาวไทยหลายหมื่นคน ซึ่งมารอเฝ้าฯรับเสด็จพร้อมส่งเสียง "ทรงพระเจริญ" ตลอด 2 ข้างทาง ที่ขบวนรถยนต์พระที่นั่งของพระองค์แล่นสู่พระราชวังซึ่งอยู่ติดริมฝั่งทะเล





สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานต่อว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเสด็จพระราชดำเนินพร้อมกับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระชนมพรรษา 80 พรรษา ที่ทรงเข้ารับการรักษาพระอาการประชวรที่โรงพยาบาลแห่งเดียวกัน เมื่อช่วงปีที่แล้ว ซึ่งสำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ระบุเพียงว่า สมเด็จพระราชินีทรงพระประชวรด้วยพระอาการที่เกี่ยวข้องกับความดันพระโลหิตและระบบการทำงานของพระหทัย

"น้ำตามันไหลออกมาเอง ฉันมีความสุขมาก ฉันกลั้นน้ำตาไม่อยู่จริง" ศศิธร อินทราชิต หนึ่งในพสกนิกรชาวไทยที่สวมเสื้อสีชมพูให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีหลังขบวนเสด็จฯแล่นผ่าน พร้อมพูดด้วยความปลาบปลื้มว่าแม้ต้องคอยนานทั้งวันท่ามกลางอากาศร้อน แต่ถือว่าเป็นการรอคอยที่คุ้มค่าอย่างยิ่งกับการที่ได้เห็นพระพักต์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ





ตำรวจจราจรคาดหมายว่ามีประชาชนราว 20,000 คน ถึง 30,000 คนที่ออกมารอเฝ้ารับเสด็จฯตลอดเส้นทางพระราชดำเนิน ด้วยเอเอฟพีรายงานว่าแทบทุกคนล้วนถือพระบรมฉายาลักษ์ของทั้งสองพระองค์ ธงชาติและธงสีเหลือง รวมทั้งป้ายข้อความ "เรารักในหลวง"

เอเอฟพีอ้างสัมภาษณ์ของ ฉัตรประภา พุ่มมั่น เจ้าของร้านขายของชำบอกว่าเธอปลื้มปิติอย่างยิ่งที่ได้มาแสดงออกถึงความจงรักภักดีในครั้งนี้ "ฉันมีความสุขอย่างที่สุด ฉันเคยมารับเสด็จฯแล้ว 8 ถึง 9 ครั้ง เมื่อใดก็ตามที่ทราบข่าวว่าพระองค์จะทรงเสด็จฯมา ฉันไม่เคยพลาดสักครั้ง" หญิงสาววัย 53 ปีบอก พร้อมเล่าว่าที่เธอสวมเสื้อสีชมพูเพราะทราบมาว่ามันเป็นสีที่จะช่วยให้พระองค์ทรงมีสุขภาพและพลานามัยที่สมบูรณ์





นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไม่ทราบว่าทั้งสองพระองค์จะทรงประทับอยู่ที่พระราชวังไกลกังวลนานแค่ไหน แต่ทางนพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ยืนยันว่าจะมีการถวายการดูแลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ในระดับเดียวกับที่ถวายการรักษาในโรงพยาบาล "ในหลวงและราชินี ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง และในหลวงทรงพระราชดำริพักผ่อนพระวรกายที่หัวหิน เพื่อพสกนิกรจะได้ไม่ต้องกังวล"

ด้านสำนักข่าวเอพีรายงานว่ามีพสกนิกรหลายหมื่นคนมารวมตัวกันรอถวายพระพรและเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯที่โรงพยาบาลศิริราช ก่อนที่พระองค์จะทรงเสด็จฯด้วยรถยนต์พระที่นั่งไปยังพระราชวังไกลกังวล





สำนักข่าวเอพีรายงานด้วยว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระราชินีฯ ทรงมีพระพักต์แจ่มใสและโบกพระหัตถ์ให้กับประชาชนที่ต่างถือพระบรมฉายาลักษณ์เหนือศีรษะ เช่นเดียวกับธงชาติและธงตราสัญลักษณ์พระราชวัง "ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ฉันมาที่นี่เพื่อเข้าเฝ้าฯพระองค์" ปรณี สุนาสวน พนักงานออฟฟิศวัย 39 ปีจากกรุงเทพฯบอกกับเอพี "ฉันรู้สึกดีมากๆ ไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดมาอธิบาย แต่ฉันมีความสุขมากที่ได้มาที่นี่"

อนึ่งนอกจากนี้เอเอฟพีกับเอพีแล้ว สำนักข่าวระดับโลกอื่นๆอย่างรอยเตอร์ส บีบีซี ฟ็อกซ์นิวส์ ยูโรนิวส์ ทีวีอาซาฮี สเตรทไทม์ส วอลสตรีทเจอร์นัล และเอบีซีนิวส์ ก็พร้อมใจรายงานข่าวการเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานยังวังไกลกังวล ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเช่นกัน ด้วยในเนื้อข่าวต่างระบุว่ากษัตริย์พระองค์นี้ทรงเป็นที่รักและเคารพยิ่งของปวงชนชาวไทย

   ดูแล้วก็น่ายินดีครับที่คนไทยส่วนใหญ่ยังรักและเทิดทูนในหลวงอยู่แต่ดูจากรูปแล้วท่านดูเหนื่อยมากเหมือนกัน เราคนไทยควรประพฤติดีประพฤติชอบให้บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุข อย่าให้ในหลวงต้องเหนื่อยเปล่าเลยนะครับ


ของจงทรงพระเจริญ

No comments:

Post a Comment