"แบบที่เรียกว่า ทำ "แบบคนจน" คือทำวิธีการแบบคนจน ไม่ได้มีการลงทุนมากหลายอย่างของเขาเราก็ทำไป ก็เลยบอกว่าถ้าจะแนะนำ ก็แนะนำได้ "ทำแบบคนจน" เพราะเราไม่ได้เป็นประเทศที่รวย เราก็รวยพอสมควร อยู่ได้ แต่ไม่ใช่เป็นประเทศที่ก้าวหน้าอย่างมาก เราไม่อยากจะเป็นประเทศอย่างก้าวหน้าอย่างมาก เพราะว่าถ้าเราเป็นประเทศที่ก้าวหน้าอย่างมาก มีแต่.. มีแต่ถอยหลัง ประเทศเหล่านั้นที่เขามีอุตสาหกรรมสูงมีแต่ถอยหลัง และถอยหลังอย่างน่ากลัว แต่ถ้าเรามีการปกครองแบบ แบบว่า แบบคนจน แบบที่ไม่ติดกับตำรามากเกินไป ทำอย่างมีสามัคคีนี่แหละ มีเมตตากัน ก็จะอยู่ได้ตลอดไป ไม่เหมือนคนที่ทำตามวิชาการ แล้วก็วิชาการนั้นก็เราดูตำราแล้วพลิกไปถึงหน้าสุดท้าย หนึ่งหน้าสุดท้ายนั้นเขาบอกว่า"อนาคตยังมี" แต่ไม่บอกว่าเป็นอย่างไร เวลาปิดเล่มแล้วมันก็ปิดตำรา ปิดตำราแล้วไม่รู้จะทำอะไร ลงท้ายก็ต้องเปิดหน้าแรกใหม่ เปิดหน้าแรกก็เริ่มต้นใหม่ "ถอยหลังเข้าคลอง"แต่ถ้าเราใช้ตำราแบบที่เราอะลุ่มอล่วยกัน ตำรานั้นไม่จบ"
พระราชดำรัสเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2534
ที่มา
chaba2550
chaba2550
จะเห็นได้ว่าในหลวงท่านไม่ได้ต้องการให้เราเป็นประเทศที่จริญก้าวหน้ามีอุตสาหกรรมสูงแต่ต้องการให้เราอยู่แบบเรียบง่ายมีอะไรก็ช่วยเหลือกันตามแบบวิถีการใช้ชีวิตแบบชนบท ให้อยู่ได้แบบไม่ต้องเป็นหนี้เป็นสินใคร เพราะทรงเห็นว่าประเทศที่ก้าวหน้ามีแต่จะถอยหลังอย่างน่ากลัว(พูดถึงตรงนี้หลายคนอาจจะไม่เข้าใจแต่ลองดูว่าชีวิตความเป็นอยู่ของคนเมืองอุตสาหกรรมนั้นเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับชีวิตคนไทยสมัยก่อน เรื่องนี้คนที่ผ่านโลกมามากคงจะเข้าใจ)
No comments:
Post a Comment