Monday, July 29, 2013

สุดเศร้า!ฟ้าผ่า'อาจารย์มช.-ภรรยา'ดับที่สหรัฐฯ




27ก.ค.2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าวต่างประเทศ foxnews.com ได้รายงานเหตุการณ์ฟ้าผ่าอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ขณะพาภรรยาไปฮันนิมูนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาเว็บ cm108.com สังคมอินเตอร์เน็ตเชียงใหม่ลำพูนได้รายงานรายละเอียดว่า เหตุการณ์อันน่าสลดใจนี้เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 23 กรกฎาคม หลังมีเหตุการณ์ฟ้าผ่าใกล้จุดชมวิวของแกรนด์แคนย่อนในช่วงที่อยู่ในรัฐอริโซน่า ชื่อ LeFevre Overlook ทำให้มีผู้เสียชีวิตสองคน ซึ่งต่อมาทราบว่าทั้งคู่เป็นสามีภรรยาคนไทย ชื่อนายอารัมภ์ กาวีวงศ์ และทันตแพทย์หญิงรัชยา ตันตรานนท์ (Ratchaya Tantraon) อายุ 30 ปีเท่ากัน และมีเด็กชายชาวอเมริกัน ซึ่งมาเที่ยวกับครอบครัว ได้รับบาดเจ็บอีกหนึ่งคน

จากการตรวจสอบของสยามทาวน์ยูเอส พบว่า นายอารัมภ์ กาวีวงศ์ นั้นเพิ่งจบการศึกษาระดับปริญญาเอกจากประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นอาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ส่วนภรรยายังอยู่ระหว่างศึกษาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยทั้งสองเข้าพิธีมงคลสมรสกันเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม หรือเพียง 14 วันก่อนที่จะเสียชีวิตพร้อมกันที่แกรนด์ แคนย่อน โดยบนเฟสบุ๊กของอาจารย์หนุ่ม มีภาพพิธีมงคลสมรสอันหวานชื่นของทั้งสองมากกว่าพันรูป

รายงานข่าวแจ้งว่า เหตุการณ์ฟ้าผ่าที่แกรนด์แคนย่อน เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในช่วงที่เกิดพายุหน้าร้อน โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ได้เกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กัน เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวที่ยืนชมวิวอยู่ริมหน้าผาสี่คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวของแกรนด์แคนย่อน และเจ้าหน้าที่ดูแลวนอุทยาน หรือปาร์ค เรนเจอร์ จะออกเตือนนักท่องเที่ยวให้ระวังฟ้าผ่า ที่จะมีขึ้นหลังจากเกิดฟ้าร้องประมาณ 30 วินาที โดยเตือนให้หลบอยู่ในอาคารหรือในรถ นอกจากนี้ จะคอยบอกนักท่องเที่ยวให้หลีกเลี่ยงจุดชมวิวโล่งๆ รวมถึงเตือนไม่ให้นักท่องเที่ยวจับรั้วเหล็กริมหน้าผาขณะเกิดเหตุการณ์ฝนตกฟ้าคะนองด้วย

ในอดีต มีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ฟ้าผ่าที่แกรนด์ แคนย่อน เป็นจำนวนมาก ทั้งบาดเจ็บเล็กน้อยจนถึงบาดเจ็บสาหัส และเคยมีนักท่องเที่ยวจากเยอรมันวัย 64 เสียชีวิตเมื่อเดือนสิงหาคม 2011 แต่ข่าวบอกว่าเป็นการเสียชีวิตเพราะอาการหัวใจวายหลังบาดเจ็บเพราะฟ้าผ่า และคู่ฮันนีมูนจากเมืองไทย ถือเป็นผู้เสียชีวิตรายที่สองและสาม

หน่วยงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติ เปิดเผยหลังจากเหตุการณ์สลดที่แกรนด์แคนย่อนว่า ในปี 2013 นี้ มีผู้เสียชีวิตเพราะเหตุหารณ์ฟ้าผ่าแล้ว 14 คน โดยมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในอริโซน่า และฟลอริด้า รัฐละสามคน


กต.ยืนยันเหตุการณ์จริงพร้อมติดต่อญาติแล้ว

นายมนัสวี ศรีโสดาพล อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับการประสานข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการจากสถานกงสุลใหญ่ไทย ประจำนครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับรายงานข้อมูลเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลา 15.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณเวลา 05.00 น.ของวันที่ 24 ก.ค.ตามเวลาประเทศไทย ได้มีผู้ประสบเหตุถูกฟ้าผ่า 3 คน โดยมีเด็กชายชาวสหรัฐฯ 1 คน มีอาการหมดสติและขณะนี้ได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้ว

ขณะที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาวไทย ซึ่งคนแรกเป็นเพศชาย อายุ 30 ปี อีกคนเป็นเพศหญิง อายุ 30 ปีเช่นกัน โดยฝ่ายชายเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในไทย ซึ่งเดินทางมาประชุมที่เมืองซีแอตเทิล และมาพร้อมกับฝ่ายหญิงที่น่าจะเป็นภรรยา จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

นายมนัสวี กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ สถานกงสุลใหญ่ไทยฯได้แจ้งมายังกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ให้ติดต่อกับญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ซึ่งเข้าใจว่าได้มีการติดต่อกับญาติเรียบร้อยแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลเบื้องต้นที่ทางกระทรวงฯได้รับแจ้งนั้น ระบุชื่อผู้เสียชีวิตชาวไทย 2 คน เป็นภาษาอังกฤษ ว่า ฝ่ายชายชื่อ “Aram Kawewong” และฝ่ายหญิง ชื่อ “Ratchaya Tantranon” แต่จากการตรวจสอบ พบว่าในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่า คือ นายอารัมภ์ กาวีวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขณะที่ฝ่ายหญิง คือ น.ส.รัชยา ตันตรานนท์ เป็นทันตแพทย์


มช.รับทราบการเสียชีวิตของบุคคลกรที่ถูกฟ้าผ่า

รองศาสตราจารย์ธีรภัทร วรรณฤมล ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรและนักศึกษาเก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทางคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย และทางคณะต้นสังกัดของ อ.ดร.อารัมภ์ ได้รับทราบข่าวจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว และทางคณะได้มีการติดต่อประสานงานไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต ขณะเดียวกันได้มีการติดต่อประสานงานกับทางสมาคมศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในเมืองลอสแอลเจอริส สหรัฐฯ ให้ดำเนินการช่วยประสานงานและดำเนินการให้ในทุกเรื่องๆให้ ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่า อ.ดร.อารัมภ์ ได้เดินทางไปนำเสนอผลงานวิจัยของตนเอง ในเวทีระดับโลก และได้รอลางานต่อ เพื่อท่องเที่ยวกับทางภรรยา จนกระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝันดังกล่าวขึ้น

ด้านอาจารย์ประจำภาควิชาโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 1 ใน ทีม งานที่เคยร่วมงานกับ อ.ดร.อารัมภ์ กล่าวว่า ได้รับทราบการเสียชีวิต ของอาจารย์ร่วมคณะแล้ว และรู้สึกเสียใจอย่างมากกับเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากจะต้องเสียอาจารย์และบุคคลากรทางการศึกษาที่มีความรู้ความสามารถ เนื่องจาก อ.ดร.อารัมภ์ ถือเป็นอาจารย์ที่มีความรู้อย่างมาก และมีความขยัน ตั้งใจในการทำงาน และถือเป็นอาจารย์คนแรกๆที่สามารถนำเสนอผลงานด้านการวิจัยของตนเองบนเวทีระดับโลกได้ ขณะเดียวเดียวกันบุคคลิกนิสัยของ อ.ดร.อารัมภ์ เป็นคนดี และรักเพื่อนพ้องอย่างมาก

ข้อมูลจาก
-http://www.komchadluek.net/


อ่านข่าวแล้วรู้สึกว่าชีวิตคนเรานั้นไม่แน่นอนจริงๆ ดังนั้นคนที่ยังอยู่ก็ควรหมั่นบำเพ็ญประโยชน์ อย่าผลัดวันประกันพรุ่งเพราะเราไม่รู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเราในวันข้างหน้า

No comments:

Post a Comment